วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

Update Fashion Trend: Spring 2010

เป็นธรรมดาของโลกซีกตะวันตกที่พอฤดูใบไม้ผลิเวียนมาถึงก็จะตื่นตาตื่นใจกับยอดไม้ที่เริ่มผลิบาน ลวดลายใน season นี้จึง นิยมเป็นแนวดอกไม้สีอ่อนๆแบบสาวน้อยแรกแย้มที่ยังไม่มีพัฒนาการของจริตมากนัก คำว่า ‘ลายดอก’ เราอาจใช้คำว่า flower มาทำให้เป็นคำขยายคือ flowery ก็ได้ เช่น a flowery dress หรือจะให้เก๋ก็ใช้คำว่า floral ก็ได้ค่ะ เช่น a floral dress


ทั้งสองหล่อนในภาพใส่ชุดกระโปรงแบบไร้สาย หรือเกาะอก ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า strapless dress ค่ะ (strap = สายผูก เติม less เข้าไปแปลว่า without strap หรือ ไม่มีสายผูก นั่นเอง) สังเกตได้ชัดว่าสาวเอเชียค่อนข้างได้เปรียบกับชุดแบบนี้เพราะสรีระผอมบางกว่า และมีวัฒนธรรมในการแอ๊บแบ๊วที่เหนือชั้นกว่าตะวันตกมาก




ส่วนแนวที่สองหล่อนนี้ใส่จะดู sexy กว่าหน่อย เพราะมันไม่ได้เป็นแค่ strapless dress เท่านั้น มันเป็น corset dress (corset = ชุดที่ผู้หญิงยุโรป ใส่รัดทรงในสมัยก่อน) หน้าตาคล้ายๆยกทรงในชุดกระโปรง

ความนิยมลายดอกดวงของฤดูนี้ได้แผ่ขยายไปถึงสินค้าประเภทอื่นด้วยเช่นกัน ทั้งกระเป๋า รองเท้า และแม้กางเกงในชาย

กระนั้นก็มิได้หมายความว่าลายดอกสีอ่อนจะเป็น trend เดียวใน season นี้เท่านั้น สำหรับสาวที่นิยมสีสันฉูดฉาด ลายดอกสีเข้มก็มาแรงไม่แพ้กัน คำว่าสีเข้มแบบสีฉูดฉาด เราใช้คำว่า vibrant ค่ะ เช่น Red is a vibrant colour.

นอกจากนี้อารมณ์ของ Spring หรือฤดูใบไม้ผลินั้นอาจเป็นสี earth tone อ่อนๆ (earth tone = สีพื้นโลก สีขี้ดิน สีเศษใบไม้ ก็คือสีน้ำตาล สีหม่นๆแบบซากกำลังย่อยสลายนั่นเอง เป็นสีที่สวย สบายตาค่ะ..จริงๆนะ) สีที่มาแรงอีกสีในปีนี้คือสีขาว ส่วนเนื้อผ้า (fabric) จะเน้นเป็นผ้า บางๆ ที่เรียกว่าซีทรู (see-through = มองเห็นผ่านเนื้อผ้าได้ ไม่ใช่ see-true = เห็นจริงๆนะ) ลูกเล่นเป็นลูกไม้ (lace) หรือวัสดุที่พองฟูแต่โปร่งบาง ใส่แล้วจะได้เหมือนภูติน้อยที่เริงร่ากับดอกไม้ที่เพิ่งผลิบาน…อะไรประมาณนั้น






Valentino Spring 2010 เก๋ไก๋ด้วยสีโทนขรึม แต่ใช้วัสดุโปร่ง และพองฟู ดูรองเท้าแล้วสาวๆเอเชียอาจไม่กล้าใส่เพราะเหมือนพุ่มขน(จมูก)ยังงัยยังงั้น








ส่วนสาวๆที่ไม่นิยมการแต่งตัวแบบ feminine หรือแบบผู้หญิ๊งผู้หญิง season นี้ก็มีกระแสใส่ jeans หรือ denim แบบขาดๆค่ะ เรียกว่า ripped หรือ torn denim (ripped เป็น verb ช่องสามของ rip ที่แปลว่าฉีกขาด เช่นเดียวกับ torn เป็นช่องสามของ tear ค่ะ เราสามารถนำ verb ช่องสาม มาทำหน้าที่เป็น adjective ขยายคำนามได้ง่ายๆอย่างนี้เอง ได้อารมณ์ถูกกระทำ (passive voice) ด้วยนะคะคือ ripped denim = เดนิม ที่ถูกทำให้ขาด)

ในส่วนของ fashion ผู้ชายนี่พี่ก็ไม่รู้สิ ไม่ใช่กูรูด้านนี้ (guru = กูรู้ กูเห็น คือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องค่ะ) หนุ่มๆคงใส่อะไรเบาๆให้ผิวกายได้รับลมฤดูใบไม้ผลิกระมัง เลยเอา Spring Collection 2010 ของ D&G มาให้พินิจ รับรอง ใส่แล้วได้เป็นตัวพ่อแน่ๆ คริๆ